3 เทคนิคเขียนแคปชั่นขายของออนไลน์ให้รวย

Page365-3-copywriting-tips-for-ecommerce.jpg

ถ้าคุณเป็นคนที่ทำการตลาดออนไลน์ ขายของผ่านโซเชียลเป็นหลัก การเขียนแคปชั่นขายสินค้าถือเป็นสิ่งสำคัญมากพอ ๆ กับรูปภาพสินค้า หลายคนประสบปัญหาคิดแคปชั่นขายสินค้าไม่ออก ไม่รู้จะเขียนแคปชั่นขายของยังไง ไม่ทราบวิธีหรือเทคนิคการเขียนแคปชั่นให้ปัง ให้น่าสนใจ ส่งผลให้ขายสินค้าไม่ได้ หรือขายได้น้อย เพราะการสื่อสารยังไม่ดีพอ เตรียมปากกากับกระดาษของคุณให้พร้อม หากพร้อมแล้วเรามาเรียนรู้เทคนิคเขียนแคปชั่นโฆษณาขายของออนไลน์อย่างไรให้รวยกันค่ะ

เทคนิคเขียนแคปชั่นขายแบบ FAB

เทคนิคการเขียนแคปชั่นขายของแบบพูดถึงคุณสมบัติ จุดแข็งของสินค้า เป็นเทคนิคการเขียนทีคนขายออนไลน์เลือกใช้มากที่สุด เพราะว่าเหมาะกับสินค้าที่มีคู่แข่งเยอะ สินค้าที่จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างให้ลูกค้ารับรู้ให้ได้ เพื่อเปิดโอกาสในการขายสินค้าให้สำเร็จ โดย FAB ย่อมาจาก

  1. Features : ต้องบอกถึงคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการของร้านเราให้ได้

  2. Advantages : บอกจุดแข็งหรือความแตกต่างของสินค้า ดีกว่าหรือต่างจากสินค้าชนิดเดียวกันในท้องตลาดอย่างไรบ้าง จุดแข็งของสินค้าที่ช่วยแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างแน่นอน

  3. Benefits : ประโยชน์หรือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ลูกค้าจะได้รับ เมื่อซื้อหรือใช้งานจากสินค้าของเรา

ตัวอย่างแคปชั่นขายแบบ Feature Advantage and Benefit (FAB)

  1. Features : เคสโทรศัพท์ป้องกันการกระแทกจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะทำตก หรือทำหล่นจากที่สูง

  2. Advantages : เคสโทรศัพท์รุ่นพิเศษทำจากวัสดุพรีเมี่ยม รองรับแรงกระแทกได้สูง ป้องกันทั้ง 4 มุมของโทรศัพท์

  3. Benefits : ปกป้องโทรศัพท์ทั้ง 4 มุม ตกจากที่สูงก็ไม่ต้องกลัวหน้าจอแตกหรือโทรศัพท์รวน

เทคนิคเขียนแคปชั่นขายแบบ BAB

เทคนิคการเขียนแคปชั่นแบบมีการเปรียบเทียบ ก่อนใช้กับหลังใช้งาน เหมาะกับสินค้าหรือบริการที่มีการวัดผลได้อย่างชัดเจน เห็นผลลัพธ์หลังจากการใช้งานเป็นเครื่องพิสูจน์สินค้า โดย BAB ย่อมาจาก

  1. Before : ก่อนจะเจอสินค้าจากเราลูกค้ามีความต้องการอย่างไร ปัญหาของลูกค้าคืออะไร

  2. After : เมื่อใช้สินค้าจากเรา ลูกค้าจะได้รับ สะดวกขึ้น ดีอย่างไร ช่วยแก้ปัญหาจุดไหนของลูกค้าบ้าง

  3. Bridge : จุดเชื่อมระหว่าง Before และ After คือสินค้าของเรา ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ผลลัพธ์ไปเป็น After

ตัวอย่างแคปชั่นขายแบบ Before After and Bridge (BAB)

  1. Before : มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวหยาบกร้าน มีจุดด่างดำ จากการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

  2. After : ฟื้นฟูผิวหน้ากลับมาขาวใสได้อีกครั้งในระยะเวลา 30 วัน

  3. Bridge : ครีมกันแดดของเราช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุด ช่วยสร้างเส้นใยผิวหนังให้แข็งแรง ป้องกัน UVA และ UVB ให้ได้ผล มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

เทคนิคเขียนแคปชั่นขายแบบ PAS

เทคนิคการเขียนแคปชั่นแบบมีการขยี้ความเจ็บปวด ชี้ปัญหาที่ลูกค้าของเรากำลังประสบอยู่นั้น เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผู้ขายเองก็ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วยนะคะ โดย PAS ย่อมาจาก

  1. Pain, Problem : ต้องเข้าใจถึงความทุกข์ ความเจ็บปวด หรือปัญหาของลูกค้าที่กำลังประสบอยู่ในขณะนั้น

  2. Agitate : ชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่ลูกค้ากำลังพบ ส่งผลกระทบหลายอย่าง ต้องแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว

  3. Solve : สินค้าจากเราช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้ากำลังพบอยู่ได้อย่างแน่นอน

ตัวอย่างเขียนแคปชั่นขายแบบ Problem Agitate and Solve (PAS)

  1. Pain, Problem : นอนหลับไม่สนิท ปวดหลังขณะนอน

  2. Agitate : ส่งผลให้ตื่นเช้าไม่สดชื่น ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ อารมณ์หงุดหงิดง่ายจากการนอนหลับไม่สนิท

  3. Solve : เปลี่ยนเป็นที่นอนยางพารา รองรับสรีระร่างกายได้ดี ไม่ปวดหลัง ปวดคอ หลับสบายตลอดคืน ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ตื่นเช้าพร้อมรับวันใหม่กับความสดชื่น

นอกจากแคปชั่นสินค้าที่ดี คนขายออนไลน์ก็ยังต้องรู้จักเทคนิคถ่ายรูปภาพสินค้าให้สวย สองอย่างนี้จะช่วยให้ลูกค้าสนใจสินค้าได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เมื่อลูกค้าหยุดดูภาพสินค้าแล้วอ่านแคปชั่นโฆษณาของเราจนทักแชทเข้ามา จะช่วยให้มีโอกาสขายมากขึ้น เทคนิคเขียนแคปชั่นสินค้าเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ทำให้สินค้าน่าสนใจ ก็ยังประยุกต์ใช้กับการแชทปิดการขายกับลูกค้าได้อีกด้วยนะคะ อยากปิดการขายให้เร็วทันใจ ก็ต้องใช้บิลออนไลน์ สรุปสินค้า แจ้งยอดโอน พร้อมบอกเลขบัญชีให้ลูกค้าในครั้งเดียวค่ะ ^^

หากคุณสนใจใช้งาน Page365 คุณสามารถ สมัครใช้งานฟรี

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เริ่มต้นกับ Page365 หรือ ทำไมเราถึงฟรี?

อ้างอิง :